ซากุระทริป 2014 - คนญี่ปุ่นในไทยที่ญีปุ่น

ระหว่างที่เดินข้ามถนนพร้อมๆกับคุยเรื่องสาวขาเล็กแห่งคะนะซะวะ "คนไตไจ้ไหมก๊ะ" เสียงนี้มัน....

หันไปดูพบกับคุณแม่ลูกสองพร้อมกับตอบไปว่าใช่ครับ "ฉานก็อยู่เมืองไตอยู่กรุงเต๊บ" คุณแม่ชาวญี่ปุ่นลูกสองชวนคุยต่อ ซวยแล้วไม่รู้ว่าที่เราคุยๆกันเมื่อกี้เค้าจะได้ยินหรือเปล่ามันออกทะลึ่งตึงตังนิดนึง คุยไปมาได้ความว่าไปอยู่กรุงเทพกับสามีที่ไปทำงานที่เมืองไทยได้หลายปีแล้ว เราจบการสนทนาด้วยการขอถ่ายรูปเด็กน้อยน่ารัก 2 คน ที่แรกๆเขินกล้องแต่พอไปเจออีกทีในพิพิธภัณฑ์นี่ทักทายกันตลอด 555

มันเป็นเรื่องแปลกทีเดียวที่จู่ๆคนญี่ปุ่นในไทยในญี่ปุ่นมาทักคนไทยที่ญี่ปุ่น อ่านแล้วงงมั้ย ถ้างงอ่านใหม่อีกทีแต่ปกติคนญี่ปุ่นเค้าไม่ค่อยทักคนแปลกหน้ากันหรอกนะ

เนื่องจากพิพิธภัณฑ์ยังไม่เปิดเราเลยแวะเข้าไปศาลเจ้าที่อยู่หน้าพิพิธภัณฑ์ซึ่งผ่านไปมาหลายวันแล้ว ศาลนี้มีชื่อว่า Ishiura คงเป็นเพราะเช้าอยู่ ศาลเจ้าเลยเงียบสงบมาก เรามาทบทวนวิธีการทำความเคารพศาลเจ้าชินโตกันหน่อยดีกว่า วิธีสังเกตง่ายๆว่าเป็นศาลชินโตคือจะมี โทริอิ ตรงทางเข้า โอเคเริ่มล้างมือตามรูป

1.ล้างมือซ้าย

2.ล้างมือขวา

3.ตักน้ำใส่มือซ้ายบ้วนปาก

4.ล้างมือซ้าย

ลืมบอกไปเรากลับมาที่ 21st Century of Comtemporary Museum อีกครั้งเพื่อเก็บตก Leandro's pool ที่เมื่อวานซืนเราไม่สามารถเข้าไปดูได้ คราวนี้เสียเงินสมใจ เอ้ย ได้ดูสมใจ เงินต้องเสียอยู่แล้ว

ก่อนเข้า กระเป๋าใบใหญ่ต้องฝากล็อกเกอร์ก่อนนะครับ พิพิธภัณฑ์อาร์ตๆล็อกเกอร์ก็ต้องอาร์ตด้วยชมพูใสๆเชียว

ทางเข้าไปสระว่ายน้ำนั้นดูลึกลับมากทีเดียว

เข้ามาก็ต้องยิ้มเพราะมันเป็นงานอาร์ตที่ต้องบอกว่าคิดได้ยังไงนะ ถ่ายรูปกันสบายมากเพราะแบ่งๆกันถ่ายนักท่องเที่ยวไม่มีแย่งกัน

ซักพักก็มีคนมาส่องเราจากข้างบนก็เลยโบกมือทักทายกันเล็กน้อย แล้วเราก็กลับขึ้นไปข้างบนโบกมือทักทายคนที่อยู่ข้างล่างกันบ้าง

จบจาก Leandro's pool ก็ยังเดินดูนิทรรศการต่อมันสุโก้ยมากๆ แต่ว่าไม่อนุญาติให้ถ่ายรูป ตัวอย่างเช่นมันจะมีวัตถุจัดแสดงคล้ายๆยานพอเข้าไปมันจะเป็นบุด้วยกระจกเงาทั้งหมด ถ้าจำไม่ผิดชิ้นงานชื่อคาไลโดสโคปมันก็เลยคล้ายๆกับว่าในนั้นเป็น infinity มองเข้าไปได้ไม่สิ้นสุด

ขากลับระหว่างเดินไปขึ้นรถเมล์ก็ได้ยินเสียงเชียร์เรียกแขกของร้านนึง มันน่าสนใจตรงที่เขาโฆษณาว่าอร่อยเป็นอันดับสองของโลก ก็ไม่ได้ถามนะว่าอันดับหนึ่งอยู่ที่ไหน