gooodview.com
Travel | Photo | Eat
โจวจวง เวนิซน้อยแดนมังกร
มีโอกาสได้ไปเซี่ยงไฮ้อีกทีหลังจากที่ไปมาเมื่อราว 10 ปีก่อน คราวนี้ไปทำงาน มีวันหยุดวันอาทิตย์หนึ่งวันเลยวางแผนไปเมืองแห่งสายน้ำที่ชื่อโจวจวง
周庄 ZhouZhuang โจวจวง
เป็นเมืองเล็กๆในมณฑลเจียงซู ห่างจากซูโจวทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ราวๆ 30 กิโลเมตร
ตั้งอยู่ทางตะวันตกของเมืองโตเกียว มีพื้นที่ราวๆ 7 เฮกเตอร์ วัตถุประสงค์ก็เนื่องจากตั้งแต่ยุคเอโดะ
ได้สูญเสียอาคารทรงคุณค่าไปกับน้ำท่วม แผ่นดินไหว ไฟไหม้ และสงคราม มากมาย ดังนั้นเพื่อเก็บรักษาอาคารเก่าที่หลงเหลืออยู่แต่ถูกรุกล้ำจากความทันสมัยของเมืองโตเกียว ทาง Tokyo Metropolitan Goverment เลยพยายามรวบรวมอาคารมาไว้ที่นี่เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ชมกัน ช่างเป็นความพยายามที่น่าทึ่งของคนญี่ปุ่นและมองไกลไปถึงลูกหลาน ไม่เหมือนดินแดนสาระขัณฑ์ที่ทุบอาคารเก่าเป็นว่าเล่น
การเดินทาง
ที่สะดวกสุดๆก็แนะนำ รถไฟ JR Chuo line ลงสถานี Musashi-Koganei
แนะนำให้มาจากสถานีชินจุกุ ดูป้าย chuo line สีส้มไว้ ที่บอกว่าจะไปทาง Mitaka, Takao อย่าไปทางป้ายที่เขียนว่า Tokyo ละกัน
ระวังถ้าเป็นรถ Rapid Special รถจะไม่จอดสถานีนี้แต่ไม่ต้องตกใจให้ลงสถานีถัดไปแล้วนั่งรถธรรมดาย้อนกลับมาซึ่งจะเร็วกว่าด้วยซ้ำ
ถึงสถานี Musashi-Koganei แล้วให้ออกสถานีรถไฟทางฝั่ง north exit แล้วเดินไปขึ้นรถบัสที่ป้ายหมายเลข 2 หรือ 3 ก็ได้ แล้วลงป้าย Koganei-koen Nishi-gushi ค่ารถบัส 170 เยน เดินเข้าไปในสวนราวๆอีก 5 นาที
ค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่ 400 เยน
ผู้ใหญ่อายุเกิน 65 ปี 200 เยน
นักเรียนมหาลัย 320 เยน
นักเรียนมัธยม 200 เยน
เวลาทำการ
เมษายน-กันยายน 9:30-17:30
ตุลาคม-มีนาคม 9:30-16:30
หยุดทุกวันจันทร์ ถ้าวันจันทร์เป็นวันหยุดราชการ จะหยุดในวันอังคาร
หลังจากผ่านจ่ายเงินและผ่านประตูเข้ามาแล้ว ห้องแรกขวามือจะเป็นห้องจัดแสดงนิทรรศการหมุนเวียน แนะนำให้เข้าไปชมเป็นน้ำจิ้มก่อนเลย
เนื่องจากมีอาคารเยอะถึง 29 หลัง และมีพวกกระจุกกระจิก อย่างรถราง ปืนใหญ่ อะไรพวกนั้น เลยขอแนะนำที่เด่นๆก็แล้วกัน
อาคาร W2 Resident of Hachirouemon Mitsui
เป็นบ้านของตระกูลมิตซุยสร้างราวๆปี 1952 ส่วนที่เป็นห้องกินข้าวและห้องรับแขกสร้างมาตั้งแต่ปี 1897ในเกียวโต และถูกย้ายมาโตเกียวหลังสงครามโลกครั้งที่สอง
ที่ตั้งเดิมอยู่ที่เขต Minato เป็นบ้านที่อลังการมากๆ หากจินตนาการไปถึงสมัยก่อน
อาคาร W5 House of the Leader of the Hachioji Guards
เป็นบ้านของผู้นำของหน่วยรักษาความปลอดภัยของโชกุนตระกูลโตกุกาวะ ใน Hachioji ถึงแม้บ้านจะหลังไม่ใหญ่แต่สิ่งที่บ่งบอกสถานะว่าเป็นบ้านของชนชั้นสูงก็คือขั้นบันไดไม้ที่กว้างซึ่งเป็นมาตรฐานของบ้านผู้มีสิทธิพิเศษ บ้านสไตล์โบราณนี้เค้าจะมีโชว์การจุดไฟเพื่อใช้ควันไล่แมลงด้วย ใครเคยไปชิระคะวะโกะ ก็ทำนองเดียวกันนั่นแหละ
อาคาร C2 Jisho-in Mausoleum (Otama-ya)
ศาลนี้สร้างโดยเจ้าหญิงจิโย ภรรยาของไดเมียวแห่งแคว้นโอวาริ มิสึโทโมะ โตกุกาว่า เพื่อเป็นที่สถิตย์แห่งดวงวิญญาณของแม่ซึ่งเป็นภรรยาของอิเอะมิสึ โตกุกาว่า โชกุนคนที่สามแห่งตระกูลโตกุกาว่า
โดยศาลนี้ย้ายมาจากแถวชินจุกุ ซึ่งศาลลักษณะเดียวกันนี้ในโตเกียวถูกทำลายไปเกือบทั้งหมดจากการโดนทิ้งระเบิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
อาคาร C4 Second House of the Nishikawa Family
บ้านนี้สร้างเป็นที่พักตากอากาศสำหรับนักธุรกิจ Izaemon Nishikawa ผู้นำในธุรกิจผ้าไหม สร้างในช่วงสมัยไทโชต่อต้นสมัยโชวะ ในยุคที่ธุรกิจผ้าไหมรุ่งเรืองสุดขีด วัสดุในการสร้างทุกชิ้นล้วนคัดสรรวัสดุที่มีคุณภาพสูง ไม่อยากจะคิดว่าบ้านหลักของเค้าจะใหญ่โตหรูหราขนาดไหน ในรูปเป็นระเบียงภายในบ้าน
ตรงข้าม อาคาร C4 จะมีประตูบ้านขนาดใหญ่ ของตระกูล Date ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก ไม่แน่ใจว่าเป็นตระกูลเดียวกับ Date Masamune ไดเมียวเซนไดหรือเปล่า
ส่วนที่ไม่มีรูป เพราะไม่ได้เอาเลนส์มุมกว้างไป - -''
อาคาร E4 Public bathhouse "Kodakara-yu"
นี่คือโรงอาบน้ำขนาดใหญ่ และหรูหรา มีการประดับด้วยเทพเจ้าแห่งความโชคดีทั้งเจ็ดอยู่ที่ประตูทางเข้าและบนเพดานในห้องแต่งตัว
ถ้าเป็นโรงอาบน้ำที่ยังมีชีวิตคงเข้าไปฝั่งผู้หญิงไม่ได้นะ แต่เข้าไปแล้วมันก็เหมือนๆกัน ต่างกันก็แค่รูปประดับ
ส่วนจัดแสดงฝั่ง East ที่เป็นร้านค้าทั้งหมดจัดแสดงได้น่าสนใจสุดๆ มีทั้งโรงแรม ร้านโชห่วย ร้านโชยุ หรือ บาร์เหล้าก็ยังมี โดยเฉพาะมีเจ้าหน้าที่ทำตัวเป็นเจ้าของร้านอยู่ด้วยนะ
Trick&Tip
เนื่องจาก Edo-Tokyo Open-air Architectural Museum ตั้งอยู่ในสวน Koganei-koen ซึ่งมีซากุระเยอะมาก แถมต้นใหญ่ๆทั้งนั้น
ถ้ามาช่วงซากุระบานก็จะได้ชมซากุระเป็นของแถมอีกด้วย
อ่อมีทริกอีกอย่างคือถ้าเป็นไปได้ให้มาในช่วงวันธรรมดา รับรองคนน้อยมาก บ้านบางหลังเข้าไปนี่ยังใจแป้วเลยเดินคนเดียว น่ากลัวมาก แต่ถ่ายรูปสบายแฮ