ซากุระทริป 2014 - Shirakawago หมู่บ้านมรดกโลก

ออกนอกเส้นทางซากุระเล็กน้อยกับ Shiragawago หมู่บ้านมรดกโลกนี้ชื่อน่าจะคุ้นหูคนไทยไม่น้อย อันที่จริงแล้วเมืองนี้อยู่ในจังหวัดกิฟุ ดังนั้นคนส่วนใหญ่จะมาทาง Takayama เอาเป็นว่าเรามันพวกแปลกแยกเลยมาจากทาง Kanazawa

แนะนำว่าควรซื้อตั๋วล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน ซื้อได้ที่ Hokutetsu Bus Ticket Station ฝั่ง East Exit สถานีรถไฟ Kanazawa เดินเลยท่ารถบัสไปนิดนึง โดยสามารถไปกลับเป็น one day trip ได้สบายๆโดยเลือกรอบเช้าสุดจาก Kanazawa และกลับจาก Shirakawago ด้วยรถรอบสุดท้าย

กินข้าวปั้นบนรถเสร็จยังไม่ทันจะงีบแป๊ปเดียวถึงแล้วใช้เวลาชั่วโมงนิดๆเท่านั้น

ตั้งแต่ลงรถปั๊ปเราก็รู้เลยว่ามรดกโลกจริงๆนี่มีการจัดการยังไง คือลงรถปุ๊ปเจอศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ห้องน้ำ ตู้ล็อกเกอร์ หันมาดูบ้านเราเอาง่ายๆคุณลองนั่งรถตู้ไปอยุธยาสิ ลงรถปุ๊ปงงแน่นอนไม่รู้จะไปถึงตรงที่เป็นอุทยานประวัติศาสตร์ได้ยังไง เราคนไทยยังงง ฝรั่งก็คงงงยิ่งกว่านะ

อีกอย่างที่น่าชมเชยมากสำหรับ Shiragawago คือการจัดการขยะ ไม่มีถังขยะสาธารณะในพื้นที่ มีข้อความบอกนักท่องเที่ยวที่ท่ารถตรงศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเลยว่าให้นำขยะตัวเองออกมาด้วย

โม้มานานเที่ยวกันดีกว่า ที่แรกที่ควรแวะเป็นอย่างยิ่งคือ บ้านคันดะ เป็นบ้านที่อธิบายถึงลักษณะพิเศษของบ้านแบบ Gasshou ได้อย่างชัดเจนที่สุด ที่มาของ Gasshou คือบ้านแบบนี้จะมีหน้าจั่วลักษณะคล้ายคนพนมมือ

ส่วนประกอบที่น่าสนใจของบ้านคันดะ

คานโค้งที่ทำจากไม้สนที่โค้งโดยธรรมชาติซึ่งโค้งจากการรับน้ำหนักหิมะ

ช่องระวังไฟ ในสมัยก่อนจะมีคนคอยเฝ้าตลอดเวลา

อาจจะดูว่าไฟไม่แรงเท่าไหร่แต่มาดูมุมด้านล่างกันบ้าง

วิธีการผูกไม้บนชั้นบนสุดของบ้าน จริงๆจะเรียกว่าชั้นใต้หลังคาก็ได้ การผูกไม้เพื่อทำให้โครงสร้างหลักของหลังคาพอที่จะลดความเสียหายจากแรงลมและแผ่นดินไหวได้

ถ้าจะถามว่าทำไมหลังคาถึงมีองศาชันนัก คำตอบก็คือลดการสะสมของหิมะบนหลังคา เพราะพื้นที่ Shirakawago เป็นพื้นที่ที่หิมะตกหนักที่บางครั้งอาจสูงถึง 2 เมตร

การออกแบบโดยวางตัวบ้านในแนวเหนือใต้เพื่อลดแรงลมปะทะ นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับทิศทางของพระอาทิตย์ที่จะทำให้บ้านเย็นในฤดูร้อนและอบอุ่นในฤดูหนาว

ตัวบ้านสร้างโดยไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว

ดูวิชาการไปมั้ยเนี่ย โอเค หลังจากดูบ้านเสร็จแล้วชั้นล่างจะชาร้อนๆและฟรีให้ซดนะครับคลายหนาวได้เป็นอย่างดี ออกจากบ้านคันดะ ก็มีบ้านอีกหลังที่ควรแวะคือบ้านวะดะ ซึ่งเป็นบ้านที่คันดะแยกตัวออกมา

ถ้าเอาความเห็นส่วนตัวนะ ใครไม่ชอบดูพวกข้าวของเครื่องใช้ก็ไม่ต้องเข้าก็ได้ เพราะเค้าเน้นเลยแหละ แต่มาทั้งทีก็เข้าซะหน่อยก็ดี เอ๊ะ ยังไง เอาเป็นว่าเข้าๆไปเถอะครับไม่ได้มากันบ่อยๆนะ

อย่างที่บอกไปตอนแรกว่าหมู่บ้านนี้ขึ้นอยู่กับกิฟุ ดังนั้นเนื้อฮิดะของขึ้นชื่อของกิฟุจึงมีอยู่นะที่นี้ด้วย ใครชอบเนื้อไม่ควรพลาด

จากบ้านวะดะ เดินไปจุดชมวิวจะมีทางถนนอย่างดีค่อยๆเดินขึ้นไปได้ แต่เรามันอินดี้เดินขึ้นไปทางศาลเจ้า Ogimachi Shrine ซึ่งทั้งสูงทั้งชัน แต่จริงๆแล้วด้วยความขี้เกียจคิดว่ามันใกล้กว่า

วิวบนนั้นก็จะประมาณนี้ ว่ากันว่าหน้าหนาวหิมะโปะลงไปนี่จะสวยกว่านี้ล้านเท่า เว่อไปเนอะเอาไป 10 เท่าก็พอ

บนจุดชมวิวนี้จะมีร้านขายของที่ระลึกหรืออุด้งร้อนๆก็มีนะ ระหว่างนี้ฝนเดี๋ยวมาเดี๋ยวไปหนาวมาก พบเจอกรุ๊ปทัวร์ไทยมากกว่า 3 กรุ๊ปที่นี่ด้วย แม่เจ้า เสียงดังไม่แพ้ทัวร์จีนนะขอบอก

ถ่ายรูปหนำแล้วเราก็ลงทางถนนอีกทางและพบว่าเดินสบายมาก อ่อทางนี้จะปิดในฤดูหนาวนะ แต่ถามว่าผิดหวังมั้ยที่เดินมาทางศาลเจ้าขอตอบว่าไม่เลยมันคนละฟีล จริงๆเวลาเหลือนะแต่แสงหมดแล้วก็แกร่วอยู่แถวท่ารถนั่นแหละ แต่ทรมานสุดตอนศูนย์นักท่องเที่ยวเค้าปิดทำการต้องออกมารอข้างนอก หนาวมากก ขนาดเป็นเดือนเมษาช่วงสงกรานต์แล้วนะ ใครจะมาก็เตรียมเสื้อผ้ามาให้ดีฮะ